ตะกรุดรักซ้อน ไม้รักฟ้าผ่า หลวงปู่ศวัส ศิริมงฺคโล พ่อปู่ฤษี วัดเกษตรสุข พะเยา

ตะกรุดรักซ้อน ไม้รักฟ้าผ่า หลวงปู่ศวัส ศิริมงฺคโล พ่อปู่ฤษี วัดเกษตรสุข พะเยา

รายละเอียด:

แรงบารมีอธิฐาน วัตถุมงคล รุ่น 66ปี ปลอดโรค ปลอดภัย เมตตา มีสตางค์ หลวงปู่ศวัส ศิริมงฺคโล ( พ่อปู่ฤษี ) วัดเกษตรสุขหลวงปู่ศวัส แต่เดิมท่านเป็นฤษีบำเพ็ญเพียรตนอาศัยอยู่ในถ้ำ ในป่า ร่ำเรียนวิชาอาคมมามากมายหลายแขนงจากครูฤษีด้วยกันทั้งพระสงฆ์ ฆราวาส จนเชียวชาญวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคมไสยเวทย์ชั้นสูง ทำนายทายทักผู้มาเยือนได้แม่นยำดังตาเห็น หลวงพ่อฤษีลิงดำ วัดท่าซุง ยังเคยยกย่องหลวงปู่ศวัสว่า เป็นผู้ที่มีแต่ให้ ใจเป็นพระ ใสสว่างดังแก้ว ท่านได้รับคำสั่งจากครูบาอาจารย์ปู่ฤษีให้มาบวชเป็นพระ ผู้ที่จะบวชให้ท่านได้จะต้องสำเร็จญาณสมาบัติถึงจะบวชให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะต้องมีอันเจ็บป่วย ไม่ทราบสาเหตุ ท่านได้เสาะหาครูบาอาจารย์บวชให้ท่าน จนไปพบหลวงปู่พระอุปัชฌาย์ อยู่ จ.สิงห์บุรี เมื่อหลวงปู่ศวัส กำหนดจิตดูจึงรู้ว่าหลวงปู่รูปนี้ในอดีตชาติ เคยเป็นครูบาอาจารย์ของท่าน ท่านจึงขอให้ท่านบวชให้ เมื่อบวช เป็นพระแล้ว พระอุปัชฌาย์จึงบอกให้ท่านเดินทาง ไปช่วยศิษย์ทางภาคเหนือจนท่านมาเจอสถานที่รก ร้างนี้ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสจึงมอบที่ดินถวายให้ท่านสร้างเป็นสำนักสงฆ์ท่านพัฒนาจนกลายเป็นวัดเกษตรสุขจนถึงทุกวันนี้ เหมือนเป็นนิมิตหมายแรงอธิฐานที่ครูบาอาจารย์ให้สร้าง วัตถุมงคลรุ่น 66ปี ปลอดโรค ปลอดภัย เมตตา มีสตางค์ ตั้งแต่มวลสาร ที่ปู่ฤษีสหายเก่าครั้งที่เคยเจอกันในป่านำมามอบให้และมาช่วยเสก แบบสุดกำลังและยังมีหลวงปู่หลาบ อายุ 67ปี สหายหลวงปู่ที่เรียนวิชามาด้วยกัน ตั้งใจมาร่วมช่วยเสกให้วัตถุมงคลชุดนี่อีกด้วย .............



ตะกรุดรักซ้อน ตามตำราครูปู่ฤษีว่าไว้ต้องเป็นต้นรักที่ขึ้นกลางป่าช้าและเป็นต้นรักที่ถูกฟ้าผ่าตายจึงจะใช้ได้ ขั้นตอนการตัดไม้รัก กำหนดฤกษ์ เซ่นพลีเจ้าที่ตายายผู้ดูแล ป่าช้าเสียก่อน วันทำพิธีตัด ฟ้าได้ร้องขึ้นมา1ครั้ง มีลมเย็นๆพัดผ่านมา ท้องฟ้าเริ่มมืดบดบังไปด้วยเมฆ เมื่อทำพิธีตัดเสร็จท้องฟ้าจึงเปิดสว่าง คือนิมิตหมายเจ้าที่เจ้าทางรับรู้ ตะกรุดดอกรักประกอบด้วย 1.กิ่งต้นรักฟ้าผ่านำมาแกะเป็นตัวตะกรุด 2. ดอกรักซ้อนที่ขึ้นกลางป่าช้ากิ่งทิศตะวันออกใช้ดอกที่ซ้อนกัน 2ชั้นเท่านั้น เพราะ 2ชั้นหมายถึงคู่เป็นคู่กัน นำมาเขียนยันต์มหาเสน่ห์ทุกดอกทุกกลีบใช้ทั้งหมด 7ดอก 3.ใบรักซ้อน คือใบที่ร่วงลงมาทับกันใบด้านล่างหงายใบบนคว่ำ จะต้องเป็นใบที่ร่วงทางทิศตะวันออก ต้นละ 1คู่ ต้องหาให้ได้ 7 ต้น ครบ7 คู่ 14ใบ จึงจะตรงตามตำรา จึงนำมาลงอักขระยันต์บังคับ โดยกำหนด ใบรักคู่แรกใบหงายลงหัวใจหญิง ( โอมจิตตังภคิณิเม ) ใบคว่ำลงหัวใจชาย ( โอมจิตตังปุริโส ) และที่เหลือทั้งหมด 6ให้แยกลงยันต์มหาเสน่ห์ตามตำรา โดยแยกยันต์เป็น 2 ฝั่งเรียกว่าตัวผู้และตัวเมีย นำใบรักทั้ง 7คู่มาประกบกัน ให้ตรงกับคู่ที่หล่นทับกัน แล้วพันด้วยด้ายแต่งงาน ที่ใช้คล้องบน ศีรษะคู่บ่าวคู่สาวทั้ง 7คู่ ( เคล็ดหมายถึงการประสบความสำเร็จในด้านความรักด้านคู่ครองสิ่งที่ปรารถนาสูงสุดคือแต่งงานได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ) พันวนรอบใบรัก 7รอบ ให้แน่นหนา เปรียบดังรักที่เหนียวแน่นไม่พรากจากหรือหลุดรอดไปจากกัน แล้วนำดอกและใบรักที่ได้ทั้งหมดใส่พานรองด้วยผ้าขาวทำบายศรีเครื่องบูชา วางบนพื้นดินกลางแจ้งฝากเจ้าที่แม่ธรณีปลุกเสกอาบ รับพลังแสงสุริยันจันทรา พลังแห่งจักรวาลเป็นเวลา 3วัน3คืน ปักเสา 4เสาล้อมรอบด้วยสายสิญจน์ และให้อยู่ภายในราชวัตรฉัตรธง โดยห้ามผู้คนเข้าใกล้ และมีเงาไม้มาบดบังเมื่อครบกำหนดให้นำดอกไม้ธูปเทียนขันธ์ 5เงิน9บาท ขอบูชามาจากเจ้าที่แม่ธรณีที่ดูแล แล้วนำดอกรักและใบรักทั้งหมดมาบดเป็นผง ผสมกับว่านมงคลด้านมหาเสน่ห์ โดยตรงอีก7ชนิด หัวว่านและต้นว่านทั้งหมดต้องขุดในเวลาเที่ยงคืน เช่น ว่านดอกทอง ว่านเสน่ห์หา ว่านจูงนาง ว่านเครือเขาหลง ว่านนางล้อม ว่านช้างผสมโขลง ว่านสาวหลง โดยลงยันต์กำกับหัวว่านปลุกเสกเสียก่อน แล้วนำมาบดผสมกับ ผงนางร่ำไร ผงพระลักษณ์หน้าทอง ผงยันต์ด้านเสน่ห์หา ผงพญาเทครัว ผงยันต์ตรึงนาง ผงขุนแผนชมตลาด ผงยันต์รักซ้อน น้ำมันพรายนางคำ นำมวลสารทั้งหมดมาอุด ในตะกรุดไม้รักฟ้าผ่า แล้วจารอักขระยันต์กำกับ เคลือบด้วยน้ำมันอาถรรพณ์นางคำ ปลุกเสกเสริมพลังด้านความรัก108จบโดยกำหนดจิตให้มีความเยือกเย็นเป็นเมตตาจนเกิดนิมิตเห็นทุกคนทุกคู่สมหวังรักกันปรองดองกันยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขเป็นมิตรไมตรีดีต่อกัน เป็นอันเสร็จพิธีกรรม ตะกรุดรักซ้อนดีเด่นเชิดชูเสริมด้านความรักคู่ครองให้สมหวัง เป็นมิตรรักใครปรองดอง ทั้งเพศตรงข้ามเจ้านายผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้ได้ประสบพบเห็นแล ตะกรุดนี้สร้างยากเสกยากไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้สร้างขึ้นอีกครั้ง บูชากันเอาเถิด อธิฐานบูชาสมหวังด้านความรัก มีค่านักดังแสนคำ